@ประกายเมฆ วิบวาว อยู่ลิบลับ
แสงแวววับ วับวาว อยู่กลางฟ้า
เสียงครืนครั่น คำราม กลางนภา
มินานช้า ฝนฟ้า คงหล่นโปรย@
ตี 4 ก่อนฝนจะโปรยปราย
@รู้สึก ดุจดัง เมฆฝน
หลุดพ้น เคว้งคว้าง กลางฟ้า
หนักอึ้ง ก่อนฝน หล่นมา
น้ำตา กลบฟ้า ท่วมดิน@
5.11น กลางสายฝน บนรถ
@รู้สึก ดั่งลม พาพัด
โถมซัด กราดเกรี้ยว หวั่นไหว
กระโชก รุนแรง ปานใด
ยังไร้ รูปร่าง ชัดตา@
8 55น ฝนตกลงมาอีกครั้ง
@รู้สึก ดุจดัง ใบไม้
หวั่นไหว ตามแรง ลมพัด
หยุดนิ่ง ในความ เงียบสงัด
ปลิดขั้ว ปลิวพัด หลุดลอย@
@รู้สึก ดุจดัง ก้อนหิน
หมดสิ้น ไร้ซึ่ง ความหมาย
แม้วาง ใกล้เพียง ข้างกาย
กลับคล้าย ไร้ซึ่ง ตัวตน@
@รู้สึก ดังเช่น หมอกควัน
แปรผัน ลอยคว้าง มาใกล้
ดูคล้าย ไร้ซึ่ง พิษภัย
เผลอไผล อาจเสีย น้ำตา@
@รู้สึก ดุจดัง สายน้ำ
ไหลตาม สายทาง แผ่นดิน
อุปสรรค เกาะแก่ง แผ่นหิน
ไหลริน มิสิ้น ศรัทธา@
@รู้สึก เปรียบดัง รถยนต์
วิ่งวน ในโลก วุ่นวาย
บางครั้ง ดูไร้ จุดหมาย
เก่ากลาย ผุพัง ทรุดโทรม@
@รู้สึก ดุจดัง หมู่ดาว
พร่างพราว ในทุก คืนค่ำ
หม่นหมอง ในคืน ฝนพรำ
มืดดำ ยามต้อง แสงจันทร์@
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น