วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วันฝนตก

หยดน้ำ รินไหล ดินชุ่มฉ่ำ
ต้นไม้ ชูกิ่งล้ำ รับสายฝน
นกน้อย หาที่เกาะ ต้านลมบน
ใจผู้คน สงบงาม ยามฝนซา


ค่ำแล้ว สายฝน โปรยปราย
สว่างพราย ผุดแสง เจิดจ้า
ครืนครั่น คำราม คลุมฟ้า
แกร่งกล้า กราดเกรี้ยว ท้าทาย


- Posted using BlogPress from my iPad

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

นาวา...



นาวา - พงษ์สิทธิ์ คำภีร์

นาวาลอยล่องกลางท้องทะเลสุดตา
โอ้นาวานี้ ลอยลำซ้ำทวนคลื่นแรง
แข่งพายุร้ายหลายยุทธ์กระบวน
หลากล้วนรุนแรงเดือดแดงเด็ดเดี่ยว

ทั้งฟ้าคะนองหม่นหมองดาวเดือนเลื่อนลอย
หมู่มารใหญ่น้อยเฝ้าคอยท้าทายยั่วยวน
โอดครวญคำรามรุกรานคำรณ
สับสนวุ่นวายมากหลายเล่ห์กล


เวิ้งว้างทางไปสิ้นไร้คนนำที่กล้าพลี
เหล่ามวลประชาชีอ่อนแรงฝีพายว่ายวน

จุดหมายเลือนลางทิศทางมัวมน
แห่งหนชนใด ร่วมใจฝ่าฟัน

นาวาวิไลเรือนี้กางใบรับลม
ปลิดความตรอมตรมระทมให้สิ้นซากไป
สุดแดนดินใดไม่เคยไหวหวั่น
หมื่นล้านโยชน์ยาว....ทะยานฝ่าไป !!

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

22 กุมภาพันธ์

"ในโลกความจริง มีซักกี่คนที่วนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเรา"

"ไม่กี่คน"

"ปกติวันเกิดแต่ละปี เรามีคนรายล้อมซักกี่คนกัน"

"ไม่น่าเกิน 10 คน"

"ปีนี้มี 200 กว่าคน"

"เป็นไปได้หรือ นี่มันงานวันเกิดขนาดใหญ่ไฮโซ ต้องหาสวนใหญ่ๆ จัดกันเลยทีเดียว"

"ไม่มีสวน ไม่มีงานเลี้ยง ไม่มีเค้ก แต่มีของขวัญมากมาย อบอวลไปด้วยพรอันประเสริฐ"

"จริง?"

"จริงที่สุด"

"สุข?"

"สุขที่สุด"

"ฉลอง?"

"ไม่... มีแต่ความเรียบง่าย"

"เรียบง่าย?"

"เรียบง่ายคือความสุข"

"พูดอะไรกับ 200 คนเหล่านั้น?"

"พูดเพียงไม่กี่คำ"

"กับ 200 คนนั้น?"

"ใช่"

"พูดว่า?"

"ขอบ พระ คุณ อย่าง สูง"



- Posted using BlogPress from my iPad

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เติบโต

เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่มนุษย์ภูมิศาสตร์จะต้องผ่านไป การผ่านความลำบาก ความกดดัน ความซ้ำซ้อนของชีวิตประจำวัน การโดนบังคับให้อยู่ในกรอบการทำงาน การต้องยอมแม้ว่าจะรู้สึกขัดใจ การต้องคิดหาทางออกในการทำงานและการใช้ชีวิต การต้องค้นหาตัวเอง ความรักความชอบ ความเกลียด การต้องค้นคว้าหาหนทางเมื่อเกิดปัญหา

4 เดือนที่ผ่านมาอาจจะน้อย หรือมากขึ้นอยู่กับความรักความชอบในงานๆ นั้น ความอบอุ่นของการต้อนรับของหน่วยงาน บทเรียนนี้มันไม่ได้มากอะไร แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องเดินผ่าน

ความรู้สึกที่หลากลหลาย บ้างก็เสียดายในความโง่งมงายของตนเองที่ใช้เวลาทั้งสี่ปีหมดไปกับการเล่นซน บ้างก็บอกกล่าวกลับมาว่าเราต้องเรียนโปรแกรมนั้น โปรแกรมนี้ บ้างก็รู้สึกว่างเปล่า บ้างก็รู้สึกว่างโหวง

สิ่งหนึ่งที่มักจะเห็นในแววตาของนิสิตที่ผ่านการฝึกงานอยู่เสมอ คือแววตาที่เข้าใจในชีวิตมากยิ่งขึ้น อาจจะไม่ที่สุดแต่ก็มีประกายสายตาอย่างนั้นเกิดขึ้นไม่น้อย

อีกไม่นาน "ผู้ใหญ่" เหล่านี้จะต้องออกไปสู่วงจรชีวิตจริงๆ การทดลองงานที่ผ่านมาเป็นเหมือนการสร้างภูมิต้านทานชั้นแรก แต่โรคภัยเกี่ยวกับการใช้ชีวิตยังมีอยู่อีกหลากหลาย รุนแรงแตกต่างกันออกไป จู่โจมเราอย่างไม่รู้ตัว กระแทกกระทั้นเราจนแทบหายใจไม่ออก

ชีวิตมีหนทางของมันเอง เมื่อสิ่งหนึ่งถาโถมเข้ามา ก็อยู่ที่เราจะรับมันได้มากน้อยแค่ไหน
ขอเพียงมีหนทางสายหนึ่ง ชีวิตก็ไม่ลังเลที่จะดำดิ่งลงไป


"จงรู้ว่าอะไรที่ต้องทำ
จงรู้ว่าอะไรที่ไม่จำเป็นต้องทำ และ
จงรู้ว่าอะไรที่ต้องไม่ทำ". ตั๋ง รุ่น 13



- Posted using BlogPress from my iPad

พรุ่งนี้ยังมี-พี่เกี้ยง.wmv



พรุ่งนี้ยังมี
พรุ่งนี้ยังมี แก้วตาคนดีอย่าร้องไห้
เสียแล้ว เสียไป คร่ำครวญเท่าไหร่ ไม่หวนคืน
ใครเขาลืมเรา ทำใจ ให้ลืมเขาเสียบ้าง
รักเขา ชืดจาง รักเรา มันก็จางได้เหมือนกัน
จดจำฝังใจทำไม เรื่องร้าวราน
ขอให้ความทรงจำผ่านเลยไปเสียที
ผ่านวันนี้ไป เรื่องราวที่ไม่ดี
พรุ่งนี้คงเป็นเรื่องธรรมดา
ชีวิตยังไกล ผู้คนมากมายให้รู้จัก
พักวาง เรื่องใจ ไม่นานเท่าไหร่ คงหายดี

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ขัดแย้ง

ดิ้นรนในความเป็นธรรมดา
เฉื่อยชาในความรุ่มร้อน
เข้านอนในความอึกกระทึก
สำนึกในความลืมตัวตน



ขวนขวายในความเสื่อมถอย
เลื่อนลอยในความหนักแน่น
ทดแทนในความปวดร้าว
พร่างพราวในความมืดมน




- Posted using BlogPress from my iPad

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

งานรับปริญญาภูมิศาสตร์รุ่น 25





น้องๆ ภูมิศาสตร์รุ่น 28 เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงทำซุ้มภูมิศาสตร์เพื่อรับพี่ๆ บัณฑิตที่มารับปริญญาในปีนี้ ซุ้มภูมิศาสตร์เป็นแผ่น 5 แผ่นประกอบกัน ส่วนที่เป็นสีๆ เป็นถุงน้ำสีหลากหลายสี เรียงกัน มีคนพยายามหาความหมายจากส่วนนี้ มีรุ่นพี่คนหนึ่งบอกว่า มันเหมือนภาพ "raster" นั่นสามารถเป็นความหมายของงานประติมากรรมนี้หรือไม่

นิสิตภูมิศาสตร์รุ่นนี้เดิมทีมีคนอยู่เกือบ 40 คน แต่ด้วยความที่ยังปรับตัวไม่ได้ หรือจะสืบเนื่องจากสภาพที่ไม่เคยเห็นแล้วหลงระเริงไป หรือแม้กระทั่งไม่สามารถวางเป้าหมายชีวิตของตนได้ในช่วงเวลาแรกของการเรียนในมหาวิทยาลัย

ในที่สุดแล้ว เมื่อผ่านปีหนึ่งไปแล้ว ปรากฏว่ามีคนอยู่ทั้งสิ้น 25 คน ประคับประคองกันเดินไปอีกสามปี มีบ้างบางคนที่เกือบจะสูญหายไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลายครั้งที่ดูเหมือนจะทดท้อ จนถึงขั้นไม่คิดอยากจะเรียน

วันนี้พวกเขากลับมายืนอยู่ตรงนี้อีกหน กลับมาพร้อมกลับชีวิตที่ผันผ่าน พร้อมกับความเติบโต ถ้าเขาเหล่านั้นหันไปมองชีวิตที่ผ่านมาอาจมองว่า

"ชีวิตที่ผ่านมาช่างน่าขบขันนัก ชีวิตข้างหน้าคงไมใช่เรื่องขบขันเช่นที่ผ่านมา"

ไม่ว่าอย่างไร ชีวิตที่ต้องเดินต่อไป เติบโตต่อไป

ยินดีกับบัณฑิตทุกคนนะครับ
7 02 11 วันรับพระราชทานปริญญา

- Posted using BlogPress from my iPad

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Post from blogpress

พร่าเลือนในความมุ่งหมาย ลืมเลือนในความสำเร็จล้มเหลว


- Posted using BlogPress from my iPad

Location:Siharajdachochai Rd,Tha Pho,Thailand

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ท่ามกลางหมู่ดาว @ ลานสาง...




ค่ำคืนอันเหน็บหนาว
ในความเงียบงันใต้หมู่ดาว
ในความทรงจำที่เหมือนแสนสั้นเหมือนยาวนาน
เศร้าซึ้งสุขสันต์ยากแยกแยะ

บางครั้งความทรงจำที่ยาวนาน
อาจจะหลงลืมได้ภายในไม่กี่นาที...
แต่บางครั้งความทรงจำเพียงเสี้ยวนาที...
กลับไม่มีวันลืมเลือน

ดิ่งลึกไปในความมืดมิด...
ปล่อยความคิดไปในมิติแห่งดวงดาว...
ความทรงจำที่สุขทุกข์หรือปวดร้าว...
ผุดพราวดุจน้ำค้างบนผืนหญ้า....
นับแสนล้านดังดวงดาวบนนภา....
ก่อกำเนิด พร่าเลือนและจางไป....

มิได้พรั่งพรู...
แต่เป็นความคิดในความเงียบ..
ไม่สับสน..
แต่ชัดเจนยิ่งนัก...

มิใช่บทกวีสวยงาม..
แต่เป็นเรียงความกระท่อนกระแท่น...

ความรู้สึกนึกคิดในความเงียบงัน
ก่อเกิดเรียงความแบบกระท่ิอนกระแท่น..